ราชาผู้ยิ่งใหญ่


สวัสดี คะทุกคน ทุกคนคงจะรู้จักพระเจ้าตากสินกันมาบ้างแล้วใช่มั้ยคะ แต่ก็มีบางคนที่ได้ลืมว่าพระเจ้าตากสินเป็นมายังไง  ดั้งนั้นวันนี้หนูจึงมาเล่าประวัติของพระเจ้าตากสินกันนะคะ
ประวัติของพระเจ้าตากสิน
พระเจ้าตากนามเดิมว่าสิน  เชื้อสายเป็นชาวจีน  พระเจ้าตากสินทรงเป็นบุตรชายของขุนพัฒน์ตำแหน่งนายอากร ชื่อหยงมารดาชื่อ นกเอี้ยง ประสูติเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2277 เกิดในแผ่นดินไทย ช่วงรัชกาล
     พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศบ้านของขุนพัฒน์(หยง)อยู่หน้าบ้านของเจ้าพระยาจักรีขุนพัฒน์นำบุตรชายไปไว้ในความอุปการะ
     ของเจ้าพระยาจักรี
ซึ่งเจ้าพระยาจักรีได้นำเด็กชายสินไปฝากให้รับการศึกษาอบรมอยู่ในสำนักพระอาจารย์ทองดี
วัดโกษาวาส จนอายุได้ 13 ปี มีความรู้อ่าน เขียน หนังสือไทยเป็นอย่างดี เจ้าพระยาจักรีจึง
นำเข้าถวายตัวเป็นมหาดเล็ก ในพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ
ในระหว่างนี้นายสินได้ศึกษาวิชาหนังสือเพิ่มเติม จนสามารถอ่านเขียนพูดภาษาต่างๆ
ได้หลายภาษานอกจากภาษาไทย เช่น จีน ญวน บาลี และนายสินสนใจ ศึกษากฎหมาย
เป็นพิเศษ ได้ศึกษา อยู่จนถึง ระยะอุปสมบทก็กราบถถวายบังคมลาไปอุปสมบทที่วัดโกษาวาส
ซึ่งเป็นระยะเดียวกับนายทองด้วง (พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ) อุปสมบทอยู่ที่วัดมหาทลาย
        ประวัติการทำงานของพระเจ้าตากสิน
ครั้นเมื่อลาสิกขา ออกมาแล้ว ทั้งนายสินและ นายทองด้วง เข้ารับราชการเป็นมหาดเล็กต่อไปในพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ต่อมาในรัชกาลพระเจ้าเอกทัศน์(พ.ศ.2301-2310) นายสินซึ่งมีความรู้ทางกฎหมายเป็นอย่างดีได้รับการแต่งตั้งเป็นหลวงยกกระบัตร อันเป็นตำแหน่ง ที่ปรึกษา ทางกฎหมายไปประจำอยู่ที่เมืองตากทำหน้าที่นั้นอยู่จนพระยาตากถึงแก่อสัญกรรม หลวงยกกระบัตร(สิน) จึงได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าเมืองตากต่อมา(คนนิยมเรียกกันว่า
พระยาตากสิน จนแม้กระทั่งทรงเป็นกษัตริย์แล้ว ก็ยัง เรียกว่า พระเจ้าตาก
หรือพระเจ้าตากสิน  ครั้นเมื่อพม่าล้อมกรุงฯ ในปี พ.ศ.2308
พระเจ้ามังระกษัตริย์พม่า ส่งทัพพม่ามากระหนาบกรุงศรีอยุธยา 2 ทาง
ทัพที่มา จากทางเหนือตั้งที่ปากน้ำประสบ ส่วนที่มาจากทางใต้ตั้งที่ทุ่งภูเขาทอง
ในระยะแรกที่พม่าเข้าล้อมกรุงศรี อยุธยา เสบียงอาหารยังบริบูรณ์ แต่พม่าได้วางแผนตัดเส้นทางส่งเสบียงจากภายนอก
เพื่อให้กรุงศรีอยุธยา อ่อนกำลังจนไม่สามารถเป็นที่พึ่งแก ่หัวเมืองขึ้นของพม่าได้อีกต่อไป
พระยาตาก(สิน) ก็ถูกเรียกตัวเข้ามาช่วยป้องกัน พระเจ้าตาก(สิน) ซึ่งขณะนั้นได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าเมืองตากเมื่อได้ข่าวพม่าล้อมกรุงได้นำ ทัพลงมาสมทบ เสริมกำลังป้องกันกรุงศรีอยุธยาคุมไพร่พลอยู่ใกล้วัดป่าแก้วหรือวัดใหญ่เพื่อป้องกันไม่ให้ พม่ายกทัพ
เข้าเมือง แต่สถานการณ์ภายในกองทัพเลวร้ายลงเรื่อยๆ ข้าราชการ ทหารทั้งแม่ทัพนายกอง และไพร่พล ต่างพากันละทิ้งหน้าที่หนีเอาตัวรอดกันโกลาหลทำให้เกิดความสับสนวุ่นวายขึ้น
กองทัพพม่าล้อมกรุงศรีอยุธยาอยู่ประมาณ 2 ปี ช่วงนั้นพระเจ้าอยู่หัว
บรมโกศ แห่งกรุงศรีอยุธยารับราชการครั้งหลังสุด คือ พระยาวชิรปราการในแผ่นดิน
ของพระเจ้าเอกทัศน์ ถูกเรียกมารับศึกพม่าในเมืองอยุธยา แต่เห็นว่าในเมืองมีวามวุ่นวายจากสาเหตุดังนี้
1.การแย่งชิงอำนาจกันระหว่างกษัตริย์ทำให้ทหารที่มีฝีมือถูกฆ่าเพราะ.ไม่ใช่พวกตนเอง
2. อยุธยาร้างศึกมานานทำให้เกิดการประมาท กษัตริย์พระองค์สุดท้ายของอยุธยา
คือพระเจ้าเอกทัศน์ไม่มี ความสามารถด้านการรบ
3. พม่าเปลี่ยนกลยุทธทางการศึกโดยตีจากหัวเมืองประเทศราช .เป็นการตัดกำลังและเสบียงอาหาร เมื่อถูกล้อมเป็นเวลานานทำให้อ่อนแอเพราะขาดเสบียงท้อใจว่า ถ้าอยู่สู้กับพม่าในกรุงศรีอยุธยาคงต้องเสียชีวิต เพราะข้าศึกเข้ามาฆ่า หรือไม่ก็เพราะต้องพระราชอาญาเป็นแน่แท้ ในวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2310 พระยาตากจึงตัดสินใจรวบรวม ไพร่พลทั้งไทยจีนซึ่งเป็น ทหารคู่ใจราว 500 คนโจมตีพม่า
พระยาตากพาไพร่พลตีฝ่าวงล้อมพม่า มุ่งตรงไปยังบ้านโพธิ์สังหาญ หรือ โพธิ์สาวหาญ รุ่งเช้าได้ต่อสู้กับกองทหารพม่า ทหารไทยฆ่าฟันทหารพม่าล้มตายแตกหนีไปพระยาตาก จึงนำทหารเดินทางต่อ และไปตั้งค่ายพัก อยู่บ้านพรานนก ให้พวกทหารไปเที่ยวหาอาหาร มาเลี้ยงกัน
ขณะนั้นมีทหารพม่ากองหนึ่ง ซึ่งมีทหารม้าประมาณ 30 คน ทหารเดินเท้าประมาณ
200 คน เดินทาง มาจากแขวงเมืองปราจีนบุรี สวนทางมาพบทหาร พระยาตากที่เที่ยวหาเสบียงอาหาร ทหารพม่าก็ไล่จับและ ติดตามมายังบ้านพรานนก พระยาตากจึงให้ทหารแยกออกซุ่มสองทาง ตนเองขึ้นขี่ม้าพร้อมกับทหารอีก 4 คน ควบตรงไปไล่ฟันทหารม้าพม่า ทหารพม่าไม่ทันรู้ตัวตกใจถอยกลับ ไปปะทะกับทหารเดินเท้าของตนเอง เกิดการอลหม่าน ทหารไทยที่ซุ่มอยู่สองข้างจึงแยกเป็นปีกกาตีโอบทหารพม่าไว้สองข้าง แล้วไล่ฟันทหารพม่า ล้มตายและแตกหนีไป พวกราษฎรที่หลบซ่อนพม่าอยู่ ครั้นเห็นพระยาตากรบชนะพม่า ก็ดีใจพากัน เข้ามาสมัครเป็นพรรคพวก พระยาตากจึงให้ราษฎรเหล่านั้นไปเกลี้ยกล่อมหัวหน้านายซ่องมาสวามิภักดิ์ นำช้าง ม้าพาหนะและเสบียงอาหารมามอบให้ นายซ่องใหญ่ที่ไม่ยอมอ่อนน้อม
ก็ถูกปราบปรามจนราบคาบ ริบพาหนะ ผู้คน ช้างม้า และศาสตราวุธ ได้เป็นจำนวนมาก หลังจากนั้นพระยาตากจึงยก กองทหารไปทาง นาเริง เมืองนครนายก ผ่านด่านกบแจะ
ข้ามลำน้ำปราจีนบุรี ไปตั้งพักอยู่ชายดงศรีมหาโพธิ์ ข้างฝั่งตะวันออก
พม่าที่ตั้งทัพอยู่ปากน้ำเจ้าโล้ใต้เมืองปราจีนบุรียกพลตามมา พระยาตากก็นำทหารไล่ติดตาม
ฆ่าฟันทหารพม่า ล้มตายลงเป็นจำนวนมาก ที่เหลือก็หนีแตกกระจัดกระจายไป
นับแต่นั้นมา พม่าก็มิได้ติดตามกองทัพพระยา ตากอีกต่อไป พระเจ้าตากได้ยกกองทัพผ่านเมืองฉะเชิงเทรา ชลบุรี(พัทยา)แล้วจึงเดินทางต่อไปยัง บ้านนาเกลือ แขวงเมืองบางละมุง
เมื่อถึงเมืองระยอง เจ้าเมืองระยองซึ่งได้ยินกิติศัพท์ของพระยาตากก็ยอมอ่อนน้อมเชิญให้
เข้าเมือง พระเจ้าตากใช้เวลาไม่ถึงเดือนนับจากตีหักออก จากกรุงศรีอยุธยาก็ยึด
เมืองระยองเป็นที่มั่นได้ ความสามารถของพระยาตากในการรวบรวมคนไทยได้เป็นจำนวนมากเช่นนี้ แสดงถึงศักยภาพของ พระเจ้าตากที่มี เหนือกลุ่มอื่น ๆ